วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มุมมองแบบเต็ม||กลับไปที่ ข้อความ"ผอ.ยูเนสโก" เสียใจไทยถอนตัวภาคีมรดกโลก สวน "สุวิทย์" ไม่มีวาระพิจารณาแผนการจัดการ "พระวิหาร"

ที่มา เว็บไซต์ประชาไท

เว็บไซต์องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) เผย นางเอรินา โบโควา ผู้อำนวยการยูเนสโก แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการประกาศถอนตัวการเป็นภาคีสมาชิกอนุสัญญามรดกโลก ๑๙๗๒ ของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากประเทศไทย ซึ่งประกาศในระหว่างการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกวาระที่ ๓๕ ที่สำนักงานใหญ่ของยูเนสโกในกรุงปรารีส ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๙-๒๙ มิ.ย. ๒๕๕๔
ผู้อำนวยการยูเนสโกกล่าวสำทับว่า อนุสัญญามรดกโลก ๑๙๗๒ นั้นไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการอนุรักษ์และปกป้องวัฒนธรรมและทรัพยากรธรรมชาติของโลกซึ่งมีคุณค่าเป็นสากล แต่ยังได้รับการยอมรับกว้างขวางว่าเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนอภิปรายในระดับนานาชาติ

และในทางตรงกันข้ามกับที่สื่อมวลชนรายงาน คณะกรรมการมรดกโลกไม่ได้มีการอภิปรายวาระแผนการจัดการปราสาทเขาพระวิหาร และไม่มีการเรียกให้ส่งรายงานใดๆ เกี่ยวกับเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ยิ่งไปกว่านั้น ก็จำเป็นจะต้องอธิบายให้กระจ่างด้วยว่าสำนักงานมรดกโลกไม่ได้ถูกคณะกรรมการมรดกโลกผลักดันให้อภิปรายวาระแผนการพัฒนาปราสาทเขาพระวิหารแต่ประการใด
การตัดสินใจของคณะกรรมการมรดกโลกในกรณีปราสาทเขาพระวิหารฝั่งประเทศกัมพูชาเป็นเพียงการถามย้ำถึงความต้องการที่จะปกป้องและอนุรักษ์ตัวทรัพย์สินจากความเสียหายประการใดก็ตามที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมให้ทั้งสองประเทศหันมาใช้อนุสัญญามรดกโลกปี ๑๙๗๒ เป็นเครื่องมือเพื่อส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และส่งเสริมสนทนาระหว่างทั้งสองประเทศ
คณะกรรมการมรดกโลกได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ ภายหลังจากที่ประเทศไทยวอล์คเอาท์จากที่ประชุม โดยข้อเรียกร้องจากประเทศไทยที่ขอให้เลื่อนวาระพิจารณาออกไปนั้นไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากประเทศสมาชิกของคณะกรรมการมรดกโลกรายใดทั้งสิ้น
และโดยที่ตระหนักในความสำคัญและคุณค่าของปราสาทเขาพระวิหาร ผู้อำนวยการยูเนสโกได้เปิดโอกาสหลายครั้งในการเรียกให้ประเทศกัมพูชาและประเทศไทยสร้างความมั่นใจว่าจะปกป้องและพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวอย่างยั่งยืน ทั้งย้ำด้วยว่าปราสาทเขาพระวิหารไม่ควรกลายเป็นประเด็นสำหรับสร้างความขัดแย้ง หากแต่ควรเป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างบทสนทนาและความสมานฉันท์ ในช่วงเดือน ก.พ. ๒๕๕๔ ผู้อำนวยการยูเนสโกได้ส่งทูตพิเศษ นายโคอิชิโร มัตสึอุระ มายังสองประเทศอันเนื่องจากการปะทะกันบริเวณใกล้กับตัวพระวิหาร ผู้อำนวยการยูเนสโกยังได้อำนวยความสะดวกในการจัดให้มีการปรึกษาหารือกันระหว่างประเทศสมาชิกทั้งสองในกรุงปรารีสเมื่อเดือน พ.ค. ๒๕๕๔ ด้วย
นอกจากนี้ยังจัดให้มีการเจรจาต่อรองในระดับเข้มข้นซึ่งจัดให้มีการอภิปรายกันระหว่างสองประเทศตลอดระยะเวลา ๕ วัน คู่ขนานไปกับการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกวาระที่ ๓๕ แต่ก็ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ
ผู้อำนวยการยูเนสโกแสดงความหวังว่าประเทศไทยจะไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งถือผลของการแสดงออกครั้งนี้ โดยใคร่ครวญถึงความสำคัญของอนุสัญญามรดกโลกและหันกลับมาเป็นประเทศภาคีที่มีความกระตือรือร้นต่อความร่วมมือในประชาสังคมนานาชาติเพื่อปกป้องมรดกโลกที่สำคัญร่วมกันต่อไป
ที่มา : มติชนออนไลน์ วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น