วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554

มุมมองแบบเต็ม||กลับไปที่ ข้อความมาร์คเผยข่าวจากสุวิทย์ยังเงียบ ชี้ยูเนสโกควรเลื่อนพิจารณาขึ้นทะเบียนออกไปก่อน

เมื่อเวลา ๑๐.๑๕ น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมคณะมรดกโลกว่า ได้คุยกับนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาฝ่ายไทย ที่ไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า อยู่ในขั้นตอนที่ไทยเสนอร่างข้อมติที่เห็นว่าควรเป็นมติของที่ประชุมเข้าไป และกัมพูชาก็เสนอมติของกัมพูชาเข้าไป ตอนนี้อยู่ในช่วงกำลังเจรจา และยังไม่ทราบรายละเอียดการพิจารณาในตอนนี้
เมื่อถามว่า ช่วงนี้มีข่าวว่ากัมพูชาล็อบบี้นานาชาติหนักมาก และอ้างว่าไทยโจมตีจนปราสาทพระวิหารเสียหาย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงตรงกันข้าม ไทยยืนยันชัดว่าการพิจารณาแผนบริหารที่เขียนขึ้นฝ่ายเดียวจะทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น การเลื่อนวาระนี้ออกไปนั้น เป็นวิธีที่จะทำให้ทุกฝ่ายมาคุยกันได้ว่า ในแง่การแก้ปัญหาในพื้นที่และการอนุรักษ์ปราสาทนั้นควรทำอย่างไร โดยไทยได้ให้ข้อมูลไปเต็มที่ เมื่อถามว่า สิ่งที่ไทยเสนอไปนั้นจะโน้มน้าวที่ประชุมได้หรือไม่ เช่นแผนที่สามมิติ นายกฯกล่าวว่า คิดว่าทำงานต่อเนื่องและสำคัญคือร่างข้อมติของฝ่ายสำนักงานยูเนสโกที่เห็นว่าควรเลื่อนออกไป
เมื่อถามว่าเป็นห่วงสิ่งที่นายสุวิทย์ระบุไว้หรือไม่ว่ากลัวว่าไทยจะแพ้เสียงในที่ประชุม และเงื่อนไขที่ผอ.ยูเนสโกเสนอว่าควรให้สองประเทศพัฒนาพื้นที่ร่วมกันและเสนอให้กัมพูชาเลื่อนข้อเสนอออกไปตามที่ไทยเสนอไป เรื่องนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นห่วง ส่วนข้อเสนอดังกล่าวยังไม่มีข้อเสนอเป็นรูปธรรมแบบนั้น แต่การให้กัมพูชาเสนอเพียงฝ่ายเดียวจะเป็นปัญหา ทุกฝ่ายควรเริ่มต้นคุยกันแล้วว่าทางเลือกอื่นคืออะไร แน่นอนว่าทุกฝ่ายควรมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตการบริหารจัดการพื้นที่ต่อไป
เมื่อถามว่า นายสุวิทย์แสดงความเป็นห่วงมือที่สามที่กลัวกว่าจะเข้ามาเกี่ยวข้อง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ ต้องแยกว่า มีการพิจารณาเรื่องข้อมติที่ไทยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและหลายฝ่ายเป็นห่วงความขัดแย้งที่เกิดขึ้น มันต้องช่วยกันทำความชัดเจนตรงนี้ว่า วิธีดีที่สุดที่จะเลี่ยงความขัดแย้งคืออะไร และอนาคตข้างหน้านั้นจะมีทางเลือกใดบ้าง แทนที่การเผชิญหน้าและมีปัญหาแบบนี้
เมื่อถามว่า หากไม่มีทางเลือก ใครจะกำหนดและตัดสินใจการถอนตัวออกมาจากการประชุม นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจในการกำหนดท่าทีต่างๆอยู่เเล้ว ในชั้นนี้เป้าหมายสำคัญ คือ การทำให้ยอมรับว่าไม่เหมาะสมที่จะพิจารณาแผนการบริหารจัดการฝ่ายเดียวของกัมพูชา และยูเนสโกควรมีบทบาทในฐานะดูแลอนุรักษ์ตัวปราสาท จึงควรหาวิธีให้ทุกฝ่ายเข้าไปร่วมอย่างสร้างสรรค์ เมื่อถามว่ากัมพูชายืนยันว่าจะไม่ถอนแผนออกมา
นายกฯ กล่าวว่า ไทยก็ต้องยืนยันของไทย และกรรมการจะเป็นฝ่ายตัดสินใจ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าหากตกลงกันไม่ได้ในอนาคตนั้นไทยจะถอนตัวจากที่ประชุม นายกฯ กล่าวว่า อยู่ที่กรรมการและต้องดูท่าทีก่อน หากท่าทีของกรรมการยอมรับฟังเหตุผลของไทยและทำงานอย่างไว้วางใจกันและกัน เพราะเมื่อวันที่ผู้แทนพิเศษยูเนสโกมาพบตนนั้น ก็พูดกันชัดแล้วว่าควรเลื่อนการหารือเรื่องนี้ไปก่อน จึงควรยืนยันตามแนวทางที่คุยกับตนไว้
ที่มา : เนชั่นทันข่าว วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น