วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

อธิบดีกรมศิลป์เผยลาออกกก.มรดกโลกยังไม่มีผล

 

"โสมสุดา" เปิดใจครั้งแรก แจงการที่ประเทศไทยลาออกจากการเป็นสมาชิกอนุสัญญามรดกโลกยังไม่มีผล ต้องรอเวลาอีก ๑ ปี ดังนั้นตัวกรรมการยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ แต่ต้องรอแนวทางรัฐบาลใหม่...

เมื่อวันที่ ๗ ก.ค. นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ในฐานะคณะกรรมการมรดกโลก เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยได้ลาออกภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติหรืออนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ ๓๕ ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสนั้น การที่ประเทศไทยได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกของอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ตัวกรรมการมรดกโลก ก็ต้องออกมาจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ๒๑ ประเทศ พร้อมกับประเทศของตนเองด้วย

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อว่า ในทางทฤษฎีตามมาตรา ๓๕ ในอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ถือว่ายังไม่มีผลอะไร เนื่องจากทางรัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต้องเป็นผู้ลงนามในหนังสือแจ้งการลาออกไปยังผู้อำนวยการใหญ่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก อย่างทางการอีกครั้งหนึ่ง ยืนยันว่าจะลาออกจริง และเมื่อยูเนสโกรับหนังสือแล้ว วันที่ประทับตราหนังสือนับไปอีก ๑ ปี จึงจะมีผลว่า ประเทศนั้นลาออก เพราะฉะนั้นพูดจริงๆในทางปฏิบัติจากบัดนี้ไปจนถึง ๑๒ เดือน ตัวกรรมการก็ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่อยู่

"รัฐบาลที่แล้วได้ประกาศลาออกจาก การเป็นอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เราในฐานะผู้ปฏิบัติงานก็คงต้องทำตามนโยบายของรัฐบาลก่อน ทั้งนี้ หากรัฐบาลใหม่เข้ามาต้องรอดูนโยบายของนายกรัฐมนตรีด้วยว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยจะให้ทำหนังสือยืนยันแจ้งการลาออกจากอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกหรือทำหนังสือแจ้งไปว่า จะไม่ลาออกแล้ว ยืนยันว่าจะอยู่ในอนุสัญญาเช่นเดิม ทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่" นางโสมสุดา กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนการลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญาฯมรดกโลก ในมาตราที่ ๓๕ ระบุไว้ว่า ๑.รัฐภาคแห่งอนุสัญญามีสิทธิในการบอกเลิกการเป็นสมาชิกในอนุสัญญา ๒.การบอกเลิกต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษรยื่นต่อผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก ๓.การบอกเลิกจะมีผลเมื่อครบระยะเวลา ๑๒ เดือน นับจากวันที่หนังสือแจ้งตอบรับการบอกเลิกของรัฐภาคี ทั้งนี้ จะไม่มีผลต่อพันธะผูกพันทางการเงินของรัฐภาคีที่บอกเลิกจนกว่าจะถึงวันที่หนังสือบอกเลิกมีผลบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม หากประชาชนต้องการที่จะศึกษาข้อมูลมรดกโลกฉบับภาษาไทย ทั้งแหล่งมรดกโลก อนุสัญญาต่างๆ การลงนามความร่วมมือ(MOU) สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่ เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลมรดกโลกของกระทรวงวัฒนธรรม www.thaiwhic.go.th ที่ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ความรู้ด้านมรดกโลก

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น