เมื่อวันที่ 21 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวถึงปัญหาชายแดนกัมพูชา ว่า อย่าให้พูดกันมากไปกว่านี้ ในเมื่ออีกฝ่ายดำเนินการโดยใช้กระบวนการยุติธรรมของศาลโลก ต้องสู้กันที่ศาลโลก ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับเราว่าจะทำอย่างไร และฝ่ายเขาจะทำอย่างไร ซึ่งคงต้องหาช่องทางที่จะพูดคุยกันให้ได้ว่าจากมติดังกล่าว จะทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ ใครชนะหรือแพ้ ตราบใดที่มีการขึ้นศาล ต้องมีคนชนะและคนแพ้ แต่มติดังกล่าวเป็นแค่มาตรการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย จะมีได้เปรียบเสียเปรียบอยู่บ้าง ต้องมาพูดคุยกันว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะขณะนี้ยังไม่มีการถอนกำลัง ตนยังไม่ได้สั่งการอะไรไป เพราะกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทย ยังไม่ได้สั่งการอะไรลงมาว่าจะให้ปฏิบัติอย่างไร เพียงแต่ให้กระทรวงกลาโหม กับกระทรวงการต่างประเทศ หารือกันว่าจะทำอย่างไร และมีการพูดคุยกับฝั่งกัมพูชา ซึ่งจะพูดหรือไม่พูดแล้วแต่
"เรายืนยันว่าจะพูดกับเขา ถึงเขาจะตอบว่าไม่พูด เราก็จะพูด ก็ยืนยันอย่างนี้ เพราะทำอย่างอื่นไม่ได้ ถ้ามีอีกวิธีหนึ่งก็คือรบกันและความขัดแย้งก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ และเราจะอยู่ร่วมกันไม่ได้ในอนาคต รวมทั้งคนทั้ง 2 ประเทศอยู่ร่วมกันไม่ได้ และขอให้ทุกคนพูดให้น้อยลงในเรื่องนี้ และเคารพต่อผู้ที่ไปปฏิบัติงาน เขาไปทำงานเขาเครียดเหน็ดเหนื่อยพอสมควร แต่ผลออกมาอย่างนี้ไม่มีใครอยากให้ออกมาอยู่แล้ว ต้องให้กำลังใจกัน คนไทยส่วนใหญ่ให้กำลังใจกันดีอยู่แล้ว แต่มีส่วนน้อยที่ไม่พยายามเข้าใจอะไรเลย และทำให้ทุกอย่างแย่ลง การพูดจาการกล่าวให้ร้าย หรือการเขียนบางครั้งฟังและอ่านแล้วไม่สบายใจ คนทำงานท้อแท้หมดกำลังใจเหมือนกัน แต่ขอเรียนว่า กองทัพไม่เคยท้อแท้ และพยายามทำอย่างเต็มที่ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์และประชาชน" ผบ.ทบ. กล่าว
วันเดียวกันนี้ มีรายงานว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะนายตำรวจระดับสูง เดินทางไปปฏิบัติภารกิจบริเวณพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.วิเชียร ลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับรายงานรัฐบาล กรณีหากมีการมอบหมายให้ตำรวจและ ตชด.เข้าไปประจำตามแนวชายแดน หลังทหารถอนกำลังตามคำสั่งศาลโลก
ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น