วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

เติ้งชงผุดเขื่อนกั้นรอบเมืองอยุธยา

นายบรรหาร ศิลปะอาชา ประธานที่ปรึกษา รมว. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเดินทางไปยังจุดสอบเทียบปริมาณน้ำ จ. เชียงใหม่ กล่าวว่าสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯได้เร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากปริมาณน้ำรวมทั้งหมดที่สะสมอยู่ทั้งทางภาคเหนือตอนล่างได้แก่กำแพงเพชร พิษณุโลก และนครสวรรค์ ซึ่งมีปริมาณน้ำกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เมื่อรวมกับปริมาณน้ำสะสมอยู่เดิมทางภาคกลางไล่มาตั้งแต่อุทัยธานี ชัยนาทสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยาที่มีปริมาณน้ำอยู่ 3,000 ล้านลบ.ม. รวมทั้งสิ้นจะมีปริมาณน้ำรวม 7,000 ล้านลูกบาศก์เมตรซึ่งการไหลของน้ำไม่มาได้มาพร้อมกันทั้งหมดในครั้งเดียว
จากกรณีดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯ ได้เร่งรัดดำเนินการอยู่ในขณะนี้เพื่อชะลอหรือยับยั้งปริมาณน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างโดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นการเร่งซ่อมแซมประตูระบายน้ำบางโฉมศรีที่จะแล้วเสร็จในวัน ที่ 12 ตุลาคม 2554 อย่างแน่นอน จากนั้นจะมีการเคลื่อนกำลังพลทั้งหมดไปซ่อมแซมคันกั้นน้ำขาดที่เขากระดี่ให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้บริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อนป่าสักฯที่จะลดการระบายน้ำลงเพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำกระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อนไปมากกว่านี้ ซึ่งในวันนี้ได้ลดการระบายน้ำที่เขื่อนป่าสักฯ เหลือ 850 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และในวันที่ 11 จะลดลงเหลือ 750 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทั้งนี้หากไม่มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มเติมก็จะเริ่มทยอยลดการระบายน้ำ ภายใน 4 - 5 วันนี้
นายบรรหาร กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ภายใน 1- 2 วันนี้จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินตรวจสถานการณ์น้ำที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและลพบุรี ที่สถานการณ์ยังวิกฤตและน่าเป็นห่วงโดยแนวทางหนึ่งที่จะเสนอในการแก้ไขปัญหา คือ การสร้างเขื่อนกั้นน้ำบริเวณวัดไชยวนาราม และรอบเกาะอยุธยารวมถึงแต่ละจังหวัดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมควรจะมีการสร้างเขื่อนกั้นน้ำถาวรในจังหวัดของตนเองเพื่อชะลอการไหลของน้ำเช่น จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี ลพบุรี และพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

ที่มา www.posttoday.com/การเมือง/115497/เติ้งชงผุดเขื่อนกั้นรอบเมืองอยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น