วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อยุธยาอ่วมหนัก น้ำขยายวงท่วมทั้งจังหวัด สูง 2-4 เมตร"เกาะเมือง-เขตเศรษฐกิจ"ไม่รอด

น้ำหลากตามทุ่งจากจังหวัดลพบุรี ไหลผ่านอำเภอบ้านแพรกสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงแบบต่อเนื่องและเข้าท่วมในชุมชนสูงกว่า 2-3 เมตร หากเป็นในทุ่งจะท่วมประมาณ 3-4 เมตร
ทางด้านถนนสายสำคัญหลายสายถูกกระแสน้ำบ่าข้ามจนรถยนต์ไม่สามารถเดินทางผ่านไปได้ เช่น ถนนสายอยุธยา-บางปะอินสายใน ถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ ถนนสายบางพระครู-ท่าเรือ ถนนอยุธยา-มหาราช ถนนสายมหาราช-บ้านแพรก ถนนสายบ้านแพรก-ลพบุรี ถนนบางบาล-ผักไห่ ถนนสายผักไห่-เสนา
ขณะที่ถนนสายรองที่เป็นถนนคันคลองชลประทานยังถูกน้ำท่วมบ่าข้ามทุ่งอีกจำนวนมาก เช่น ถนนคันคลองชลประทานบ้านเจ้าปลุก-คลองน้อย ถนนคลองน้อย-ไชโย ถนนสายบ้านขล้อ-ตาลเอน และมีหลายเส้นทาง ทางจังหวัดได้เสริมแนวคันดินเพิ่มความสูงของถนนที่มีระดับสูง 3 เมตรแต่ยังไม่รอดถูกน้ำท่วมให้สูงขึ้นไปอีก

สำหรับเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาพบว่าเข้าขั้นวิกฤตเช่นกัน น้ำทะลักเข้าซอยโรงรับจำนำท่วมถนนอู่ทอง ตลาดหัวรอ ชุมชนหน้าโรงเรียนเทศบาลวัดเขียนติดตลาดหัวรอ และไหลข้ามถนนอู่ทอง ที่เป็นถนนล้อมรอบเกาะเมืองและเป็นแนวเขื่อนป้องกันน้ำท่วมเกาะเมืองที่ระดับความสูงกว่า 20 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเริ่มซ่อมแนวกั้นน้ำจนสำเร็จ

ส่วนเขตเศรษฐกิจสองฝั่งถนนโรจนะถือเป็นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ของจังหวัดและเป็นเขตที่ตั้งร้านค้ามากมาย พบว่าเจ้าหน้าที่ได้ออกรถประกาศให้ชาวบ้านร้านค้าเก็บข้าวของ โดยคันกั้นน้ำหันตราไม่สามารถทนแรงดันน้ำได้ น้ำไหลทะลักเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแต่ยังไม่สำเร็จ ทำให้น้ำด้านนอกคันล้อมที่สูงกว่าด้านในประมาณ 2 เมตร ทะลักเข้าพื้นที่

คันกั้นน้ำวัดไชยวัฒนารามพังทลาย ไม่ถึง 10 นาที เก็บของ-หนีตายวุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม คันกั้นน้ำฝั่งทิศใต้ของโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม อายุกว่า 500 ปี ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เนื้อที่กว่าร้อยไร่ได้พังทลายลงจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยน้ำได้ไหลทะลักท่วมสูงกว่า 2 เมตร ในเวลาไม่ถึง 10 นาที และมวลน้ำจำนวนมหาศาลยังไหลข้ามถนนสายบ้านป้อม-คลองตะเคียน ด้านหลังวัดไชยวัฒนารามเข้าท่วมชุมชนหลังวัดและชุมชนวัดลอดช่องกว่า 200 หลังคาเรือนอย่างรวดเร็วในระดับความสูงเกือบ 2 เมตร ทำให้ชาวบ้านที่ยังนอนอยู่แตกตื่นหนีตายและขนย้ายข้าวของอย่างอลหม่าน แต่ส่วนใหญ่ขนของไม่ทันทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก

ที่มา www.matichon.co.th/news_detail.php
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น