วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรุงเก่ายังวิกฤตหนัก คันกั้นวัดกษัตราฯ-วัดเขียน พัง ทะลักท่วมบ้านเรือนไม่หยุด

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ยังวิกฤตหนัก โดยเฉพาะเมื่อช่วงเวลา 05.00 น.วานนี้ (7 ต.ค.) คันดินกั้นน้ำวัดกษัตราธิราช วรวิหาร ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก ตรงข้ามกับวังหลังหรือวังสวนหลวงได้พังลง ทำให้น้ำไหลข้ามฟากเข้าท่วมหมู่บ้านวรเชษฐ์ โดยทาง อบต.ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านขนของขึ้นน้ำสูง ส่วนถนนหน้าวัดเจดีย์ น้ำสูงขึ้นอีกกว่า 50 เซนติเมตร ทำให้หน้าโรงเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา น้ำสูงขึ้นอีกกว่า 1 เมตร

ต่อมาเวลาประมาณ 07.00 น.คันดินกั้นน้ำวัดเขียนตลาดหัวรอ ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา ได้พังลงมาอีก 1 จุด ทั้งนี้ นายกเทศบาลเมืองอโยธยา ได้ประกาศเตือนประชาชนให้เร่งขนย้ายของขึ้นที่สูง เพราะมีการคาดการณ์ไว้ว่ามวลน้ำจะทะลักเข้าท่วมทุกพื้นที่ฝั่งอโยธยาช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน

ท่วมอยุธยาทะลักเข้าท่วมอำเภออุทัยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด น้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขยายวงกว้างเพียงแค่วันเดียวน้ำที่ท่วมจากวงเวียนเจดีย์และแยกวัดพระญาติ ไหลทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ เพราะแนวกำแพงดินและคันกระสอบทรายกั้นน้ำที่กั้นน้ำ ไม่สามารถทานแรงดันของน้ำได้ จึงทำให้คันกั้นน้ำพัง น้ำที่เต็มอยู่เหนือคันกั้นน้ำจึงไหลทะลักอย่างแรงน้ำกระจายครอบคลุมทั่วพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไหลไปตามถนนโรจนะที่รถวิ่งสัญจรไปมากลายเป็นแม่น้ำย่อยๆ ภายในพริบตา แล้วไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนนเรศวร (ซ.น้องแดง ) ม.1 อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 50 ซม.ซึ่งมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามหอพักต่างๆ ต้องขนย้ายของหนีน้ำกันโกลาหล ต้องเดินลุยน้ำกันเป็นกิโล ในการขนย้าย ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ได้ทะลักเข้าท่วมย่านสถานบันเทิง ตลาดแกรนด์ แล้ว

สนามกีฬาพระนครศรีอยุธยาจมแล้ว

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นอกจากนี้ น้ำยังได้ทะลักเข้าท่วมสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้วทั่วพื้นที่ ถนนทุกสายรอบๆ สนามกีฬา เต็มไปด้วยน้ำ และได้ขยายพื้นที่ท่วมเพิ่มโรงเรียนวัดใหญ่ชัยมงคล จ่อทะลักเข้าท่วมศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและศูนย์การค้าแห่งใหญ่อีกด้วย

ล่าสุด เวลา 17.00 น.ว่าที่ร้อยตรี สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพรนครศรีอยุธยา ได้ใช้รถประกาศเตือนให้ชาวบ้านรีบขนย้ายของภายใน 5 ชั่วโมง เพราะคันกั้นน้ำหลายจุดไม่สามารถรับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจึงให้ชาวบ้านรีบขนย้ายของขึ้นที่สูงและเคลื่อนย้ายรถออกไปให้พ้นจากพื้นที่เสี่ยง

โบราณสถานป้อมเพชรวิกฤต-น้ำเพิ่ม

นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นมาก ทำให้โบราณสถานป้อมเพชรอยู่ในขั้นวิกฤต เนื่องจากน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมตัวป้อมเพชร และปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีกกว่า 50 เซนติเมตร คาดว่า จะสูงขึ้นถึงระดับถนนและทำให้ป้อมเพชรต้องแช่น้ำ ถือเป็นสิ่งที่น่าห่วง เนื่องจากบริเวณดังกล่าว เป็นจุดศูนย์รวมของแม่น้ำ 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา ลพบุรี และป่าสัก ไหลมารวมกันทำให้กระแสน้ำวน ไหลเชี่ยว และจะทำให้ฐานรากของป้อมเพชรพังทลาย

นางสุกุมล กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ ยูเนสโก ได้รับทราบถึงสถานการณ์น้ำท่วมโบราณสถาน ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา แหล่งมรดกโลกแล้ว โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนารามที่ได้รับความเสียหายหนัก หากได้รับการช่วยเหลือจากยูเนสโก ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีต่อการบูรณะซ่อมแซม โดยในระหว่างนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้เปิดให้ประชาชนร่วมบริจาคเงินบูรณะโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วม ผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาราชดำเนิน ชื่อบัญชีโครงการบูรณะโบราณสถาน กรมศิลปากร เลขที่ 081-0-09603-6

กนอ.สั่งปิดนิคมอุตฯอยุธยา 5 วัน

วันเดียวกัน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เพื่อขอความร่วมมือให้หยุดการประกอบกิจการชั่วคราว เป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 7-11 ต.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และลดผลกระทบที่จะเกิดความเสียหาย รวมไปถึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับ กนอ.ในการดำเนินการป้องกันไม่ให้น้ำจากภายนอกเอ่อเข้าท่วมภายในบริเวณนิคมฯ ทั้งนี้ หากกรณีเกิดเหตุน้ำท่วม ทาง กนอ.จะตั้งศูนย์อำนวยการที่ สำนักนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และหากเหตุการกลับสู่สภาวะปกติจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบอีกครั้งหนึ่ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น